จากการที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับประเทศซาอุดีอาระเบียให้อยู่ในระดับปกติ โดยเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบสะสางคดีต่างๆ ที่เป็นสาเหตุให้ระดับความสัมพันธ์ไม่ปกติให้เป็นที่ยุติโดยเร็ว กระทรวงแรงงานจึงเร่งส่งเสริมการจ้างแรงงานไทยในประเทศซาอุดีอาระเบียซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นายพรชัย อยู่ประยงค์ รองปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เผยว่า สนร.ริยาด ได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล “ศักยภาพการจ้างแรงงานไทยในประเทศซาอุดีอาระเบียปี ๒๐๐๙” เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้บริหารของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการจ้างแรงงานไทยในประเทศซาอุดีอาระเบีย โดย สนร.ริยาด เห็นว่า ในปี ๒๐๐๙ ตลาดแรงงานซาอุดีอาระเบียจะเป็นตลาดแรงงานที่มีศักยภาพสูงในการจ้างแรงงานต่างชาติแห่งหนึ่งในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งมีศักยภาพสูงในการจ้างแรงงานไทยด้วยหากมีการเปิดวีซ่าแก่แรงงานไทย ซึ่งจะสามารถรองรับแรงงานไทยได้กว่า ๑๐,๐๐๐ คน
ทั้งนี้โดยมีปัจจัยที่เอื้อต่อการจ้างแรงงานต่างชาติ และเป็นตลาดแรงงานที่มีศักยภาพในการจ้างแรงงานไทย ๔ ประการ ดังนี้ ประการแรก ในด้านภาพรวม โดยภาวะการจ้างแรงงานในตลาดแรงงานประเทศซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของโลกโดยที่ผลกระทบดังกล่าวอยู่ในวงจำกัดเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเท่านั้นในขณะที่ภาคการผลิตอื่นๆ รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างยังไม่ได้รับผลกระทบ ประการที่สองรัฐบาลประเทศซาอุดีอาระเบีย มีนโยบายที่ชัดเจนในการเพิ่มการลงทุนในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่สำคัญ รวมทั้งสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนให้สามารถดำเนินโครงการไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปี ๒๐๐๙ เท่ากับ ๔๗๕ พันล้านริยาล ($๑๒๖.๗bn) สูงกว่าปี ๒๐๐๘ ถึง ๑๗ พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ และเป็นงบประมาณรายจ่ายที่สูงที่สุดที่เคยจัดสรรมา ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานสูงอย่างต่อเนื่องด้วย
ประการที่สาม บรรยากาศการลงทุนในภาคการก่อสร้างในสายตาของนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ยังเห็นว่า ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคอ่าวอาหรับ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่มีการลงทุนในซาอุดีอาระเบียสูงขึ้น และจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย และประการสุดท้ายนายจ้างท้องถิ่น ชาวซาอุดีอาระเบีย และนายจ้างบริษัทข้ามชาติที่มีโครงการลงทุนในประเทศซาอุดีอาระเบียยังคงมีความชื่นชอบในทักษะฝีมือ และบุคลิกในการทำงานเฉพาะตัวของแรงงานไทยที่มีความขยันและรับผิดชอบในการทำงานสูง จึงยังคงมีความต้องการที่จะจ้างแรงงานไทยจำนวนมากในโครงการต่างๆ อยู่ และทางการซาอุดีอาระเบียก็ไม่มี เงื่อนไขอื่นใดในการกีดกันแรงงานไทยนอกเหนือจากปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังไม่เป็นปกติอยู่ในขณะนี้