ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญทางการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจในโลกอิสลาม กลุ่มอาหรับและภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นศูนย์กลางของโลกมุสลิมและเป็นที่ตั้งขององค์กรมุสลิมที่สำคัญ อาทิ Organization of Islamic Conference (OIC), GCC, Islamic Development Bank (IDB) ซาอุดีอาระเบียให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อประเทศในกลุ่ม GCC ประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มอาหรับในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียพยายามขยายบทบาทของตนในกระบวนการสันติภาพตะวันออก กลาง โดยเมื่อเดือน มีนาคม 2545กษัตริย์ Abdullah (ขณะทรงเป็นมกุฎราชกุมาร) ได้เสนอแผนสันติภาพ (Abdullah Peace Initiative) ตามหลักการ Land for Peace โดยขอให้อิสราเอลถอนจากดินแดนอาหรับที่ถูกยึดครองทั้งหมด เพื่อแลกกับการที่กลุ่มประเทศอาหรับทั้งหมดจะทีความสัมพันธ์เป็นปกติกับ อิสราเอล ทั้งนี้ ต่อมาแผนสันติภาพดังกล่าวได้รับการับรองจากสันนิบาตอาหรับ (League of Arab States) ให้เป็นแผนสันติภาพของประเทศอาหรับ
นอกจากนั้น ในระยะปัจจุบันซาอุดีอาระเบียได้เร่งดำเนินนโยบายปราบปรามและต่อต้านการก่อ การร้ายโดยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาในสงครามการต่อต้านการก่อการ ร้าย (war on terror) การปราบปรามและการตัดช่องทางการเงินของกลุ่มก่อการร้ายโดยเฉพาะกลุ่ม Al Qaeda และเครือข่าย
ในขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียก็กำลังดำเนินนโยบาย “มุ่งตะวันออก” เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ ความร่วมมือและสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับประเทศในเอเชีย โดยกษัตริย์อับดุลลาห์ ได้เสด็จเยือนประเทศในเอเชีย ได้แก่ จีน (22-24 มกราคม 2549) อินเดีย (24-27 มกราคม 2549) มาเลเซีย (30 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2549) และปากีสถาน (1-2 กุมภาพันธ์ 2549) ซึ่งนับเป็นการเสด็จต่างประเทศครั้งแรกของพระองค์ภายหลังการขึ้นครองราชย์
ทั้งนี้ ในการเยือนเอเชียของกษัตริย์อับดุลลาห์นี้ ทรงมุ่งขยายความร่วมมือด้านพลังงาน (น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ) กับจีน เพิ่มพูนความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมกับอินเดีย การส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมกับมาเลเซีย ในส่วนของการเยือนปากีสถานนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
3210